มิน-พีชญา วัฒนามนตรี อยากเก่งต้องกล้าพูด และกล้าถาม


I Get English ฉบับนี้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับมิน-พีชญา วัฒนามนตรี นางเอกละครเรตติ้งแรงหลายต่อหลายเรื่องของช่อง 7 สาวสวยคนนี้ไม่ได้มีดีแค่การแสดง แต่ยังเก่งกีฬา และชื่นชอบภาษาอังกฤษอย่างมากอีกด้วย ซึ่งประเด็นนี้เองที่เราจะมาพูดคุยแบบเจาะลึกให้แฟนๆ I Get English ได้รู้จักมินในอีกแง่มุมหนึ่งตอนนี้มินกำลังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) คณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษธุรกิจ ซึ่งเหลือหน่วยกิตที่ต้องเก็บอีกไม่กี่ตัวก็จะคว้าปริญญามาครองได้สมใจ ว่าที่บัณฑิตสาขาภาษาอังกฤษธุรกิจเฉลยกับเราว่า ก่อนที่จะมาเรียนสาขานี้ตนเองไม่ได้
เป็นคนที่เก่งหรือชอบภาษาอังกฤษนัก จนวันหนึ่งขณะที่กำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนสาธิตหาวิทยาลัยขอนแก่น (ศึกษาศาสตร์) มีโอกาสได้ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ Columbia Falls High School รัฐมอนแทนา ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต เพราะมินได้ค้นพบว่าตัวเองหลงรักการเรียนภาษาเข้าอย่างเต็มเปา

"ตอน ม.4 มินได้มีโอกาสไปเรียนแลกเปลี่ยนที่อเมริกาปีนึงค่ะ ไปอยู่กับhost family แล้วก็ไปเข้า high school ที่โน่น ตอนนั้นอายุ 15 ปี ยังเป็นวัยรุ่นก็เลยอยากไปท่องโลกกว้างจากนั้นชีวิตก็เปลี่ยนทันที ต้องเรียนรู้ที่จะทำอะไรด้วยตัวเองหลายอย่าง ได้รู้จักสังคมและวัฒนธรรมที่แตกต่าง ได้พบเพื่อนใหม่ๆ ได้เข้าทีม Softball อย่างแรกที่ได้เรียนรู้คือภาษา ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้เป็นคนที่เก่งภาษาอังกฤษเลย แต่พอหลังจากที่ได้ไปอยู่อเมริกา เราก็รู้สึกว่าเราหลงใหลภาษาอังกฤษและชอบภาษาอังกฤษมาก รู้สึกว่ามันมีอะไรให้เราค้นหาและเรียนรู้ตลอดเวลา"

หลังจากเรียนจบ ม.ปลาย ทำไมจึงตัดใจเลือกเรียนสาขาภาษาอังกฤษธุรกิจ
"ตอนมินอยู่ ม.ปลาย มินไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรแน่ คุณแม่ก็มาช่วยดู มินอธิบายให้คุณแม่ฟังถึงความชอบของตัวเอง คุณแม่บอกว่าลูกน่ะชอบภาษาอังกฤษ ไม่ชอบเลข ลูกต้องไปเข้าคณะที่มันเข้ากับลูก เอแบคเป็นมหาวิทยาลัยหนึ่งที่มีคุณภาพในเรื่องการใช้ภาษาและด้านธุรกิจด้วย เพราะว่าบ้านมินก็ทำธุรกิจ คุณแม่บอกว่าเอแบคนี่แหละเหมาะกับลูกที่สุดแล้ว ยากหน่อยแต่ก็รู้ว่าลูกทำได้ จริงๆ ตอนนั้น มินเอ็นทรานซ์ติดหาวิทยาลัยขอนแก่นไปแล้ว คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษเหมือนกันค่ะ แต่มินเรียนที่ มข. มา 12 ปี ตั้งแต่ ป.1 ถึง ม.6 พอได้ไปอเมริกาเรารู้สึกว่าโลกนี้มันใหญมาก มันมีอะไรที่ยังไม่ได้เจออีกเยอะเลย ก็เลยตัดสินใจมาเรียนที่กรุงเทพฯ ค่ะ"ด้วยความที่เราเป็นคนชอบภาษาอยู่แล้วพอมาเรียนสาขานี้ เวลาเขาให้โจทย์อะไรเราก็จะรู้สึกสนุก เราก็จะกล้าถามและก็กล้าที่จะเรียนรู้คือถ้าเรารักหรือชอบอะไร เราก็จะสนุกกับมันต่อให้มันยากแค่ไหนเราก็รู้สึกว่ายิ่งทำได้ยิ่งสนุกการเรียนภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยจะเป็น step ไปค่ะ มี Basic Eng, Eng 1, Eng 2, Eng 3, Eng 4 ตอนเราอยู่ Basic Eng ก็จะรู้สึกว่า Eng 4 ต้องยากมาก เราคงไม่ผ่านแน่เลย แต่พอเราเรียนขึ้นมาเรื่อยๆ มันก็ผ่านไปได้ สำหรับมินมันเหมือนเล่นเกมผ่านด่านไปเรื่อยๆ สนุกดีค่ะ"

อาชีพในฝันของมิน
"ก่อนที่มินจะมาเป็นดารา มินค่อนข้างที่จะมีเป้าหมายในชีวิตชัดเจนอยู่แล้วว่า อยากจะช่วยธุรกิจที่บ้าน หรือทำอะไรก็ได้ที่สามารถต่อยอดธุรกิจทางบ้านได้ แต่ตอนนี้เรามีโอกาสได้ทำงานในวงการก็เหมือนเปิดโอกาสให้ตัวเองอีกด้านนึงด้วยค่ะ"

ได้ใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานบ้างหรือเปล่า
"ได้ใช้ค่ะ เวลาไปเจอลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติบางคนพูดไทยไม่ได้ เราก็สื่อสารกับเขาได้ ยิ่งเจอใครที่พูดภาษาอังกฤษเรายิ่งชอบ เพราะมินรู้สึกว่าเราอยู่เมืองไทย โอกาสที่จะได้พูดภาษาอังกฤษมันน้อยมากมินกลัวลืม ต่อให้เราจะจำได้แค่ไหนแต่ถ้าเราไม่ได้ใช้วันนึงมันก็ต้องลืมหรืออาจจะนึกศัพท์ไม่ออก"

คิดว่าอะไรเป็นอุปสรรคที่ทำให้หลายๆ คนยังไม่ก้าวหน้ากับภาษาอังกฤษ
"ตัวมินเองเคยเป็นเด็กที่เรียนโรงเรียนไทยมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโต แล้ววันนึงได้มีโอกาสไปเรียนที่ต่างประเทศ คล้ายๆ แบบอารมณ์หักดิบเลย มินเป็นเด็กที่ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษ มีแค่อย่างเดียวคือความกล้า อยากทำ อยากลองคือเบื่อที่แบบว่านั่งเรียนแล้วไม่เข้าใจ นั่งเรียนแล้วไม่รู้ว่าจะเขียนอะไร มันไม่เข้าใจว่าภาษาอังกฤษคืออะไร มินคิดว่าเขายังไม่กล้าพูดมากกว่า เพราะรู้สึกว่าการพูดภาษาอังกฤษมันคือการแข่งขัน ฉันพูดไม่เก่ง ฉันต้องดูแย่แน่เลย แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ภาษามันคือการสื่อสาร เหมือนเราพูดภาษาไทย เวลาต่างชาติมาบ้านเราเขาก็ไม่กลัวที่จะพูด เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่น่าอายเลยค่ะ เราไม่ได้เกิดในบ้านเขาเรามีสิทธิ์ที่จะเรียนรู้ มีสิทธิ์ที่จะไม่เก่ง แต่วันนึงเราก็จะเก่งได้ถ้าเรากล้าที่จะลอง กล้าที่จะทำกล้าที่จะเรียนรู้"

เคล็ดลับในการเรียนภาษาอังกฤษของมิน
"เคล็ดลับของมินคือ ตั้งใจและก็อย่ากลัวที่จะเรียนรู้ค่ะ เพราะจริงๆ แล้วภาษาอังกฤษสนุกมากอะไรที่เราไม่รู้เราต้องพยายามที่จะค้นหามัน อย่าวิ่งหนีมัน แล้วเราก็จะชนะมันได้และก็สนุกกับมันค่ะ"
เคล็ดลับเก่งภาษาอังกฤษของมินไม่ซับซ้อน หากแต่ยากตรงที่ต้องเอาชนะความกลัวในจิตใจของตัวเราเอง ไม่ว่าจะเป็นกลัวผิดหรือกลัวอาย ถ้าเราสามารถใช้ความกล้าเอาชนะมันได้เมื่อไร ประตูแห่งความสำเร็จก็พร้อมเสมอที่จะเปิดรับเรา

แฟชั่นดาราวัยรุ่น แนท ณัฐชา

แนท ณัฐชา นวลแจ่ม
นางเอกวัยรุ่นที่เคยฝากผลงานภาพยนตร์ที่เป็นที่รู้จัก Such Seed ห่วยขั้นเทพ "แนท ณัฐชา นวลแจ่ม" กับวัยที่โตขึ้นเลยได้เห็นน้องแนทลุกขึ้นมาถ่ายแฟชั่นแนวเซ็กซี่ แต่ในชีวิตจริงในวัย 20 ปี กับแฟชั่นสไตล์การแต่งตัวของน้องแนทก็ยังเป็นวัยรุ่นน่ารักที่แต่งตัวใสๆ แบ๊วๆ สาวน้อยหุ่นดีที่แต่งตัวได้หลากหลายสไตล์ มีห้าวบ้าง หวานบ้าง หรือเซ็กซี่บ้าง ตามโอกาส

สตรีทแฟชั่น @ ไต้หวัน Mickey & Betty Boop

CRYSTII LIN FASHION BLOGGER FROM TAIWAN
สตรีทแฟชั่น @ ไต้หวัน CRYSTII LIN FASHION BLOGGER FROM TAIWAN เธอมาในชุดน่ารักๆ เสื้อยืดสีดำลายการ์ตูน Mickey กับกระโปรงสีขาวดำลายชิโนริ รองเท้าส้นเตี้ยสีเขียวและถุงเท้าลายจุดเก๋ๆ น่ารักๆ กระเป๋า Betty Boop เบรคลุคส์แบ๊วๆ ด้วยแว่นตาเท่ห์ๆ ทรงตี๋ใหญ่


ปรับแต่งคิ้ว ทำให้ดูเด็กลงได้ในไม่กี่ขั้นตอน

เคยมั้ยๆ เวลาเมกอัพจัดเต็มรียบร้อย พอมาส่งกระจกแล้วยังรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง ยังไม่เป๊ะเท่าที่ควร ขอบอกเลยว่า คิ้ว อาจเป็นส่วนนึงบนใบหน้าที่สาวๆ หลายคนอาจละเลยก็เป็นได้ จนทำให้การแต่งหน้าไม่สมบูรณ์แบบ 
ชาวจีนโบราณเชื่อว่า คิ้ว สะท้อนถึงความสำเร็จ การทำงาน และความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง หากใครมีคิ้วที่เรียงกันสวย จะช่วยเรียกทรัพย์ได้ด้วย แล้วสาวๆ รู้หรือไม่ว่า การแต่งหน้าในชีวิตประจำวันนั้นจะสวยเริ่ดหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับคิ้วนี่แหละ เพราะการที่เรามีคิ้วที่สวยเพอร์เฟคเหมาะกับรูปหน้า ก็เหมือนแต่งหน้าที่เสร็จไปแล้วครึ่งทาง ที่เหลือเป็นการแต่งแต้มสีสันให้เข้ากับลุค และนอกจากนี้คิ้วที่สวยเป๊ะ ยังสามารถปรับรูปหน้าให้แลดูยกกระชับอ่อนเยาว์ได้อย่างน่าทึ่งเลยทีเดียวละ
เรามีเทคนิคการปรับแต่งรูปทรงคิ้วอย่างง่ายๆ ที่ทำให้เราดูเด็กลงได้ในไม่กี่ขั้นตอนจาก คุณปัญญา แหล่งสนาม ผู้เชี่ยวชาญจาก Lancôme มาฝากสาวๆ กัน มีขั้นตอนดังนี้


1. วัดรูปคิ้ว
การแต่งคิ้วให้สมบูรณ์แบบดูเป็นธรรมชาตินั้น ควรต้องเริ่มสังเกตจากรูปตาและใบหน้าเป็นอันดับแรก ขั้นตอนนี้อาจจะไม่มีหลักเกณฑ์ที่กำหนดแน่ชัด เพราะรูปหน้าของแต่ละคนย่อมมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป วิธีที่ง่ายที่สุดในการวัดระยะของคิ้วที่เหมาะสมกับรูปหน้า ให้แบ่งเป็น 3 จุด ดังนี้ 

A. จุดเริ่มต้นของคิ้ว
ให้ใช้ด้ามแปรงวางเป็นแนวตั้ง โดยทาบลงที่ปีกจมูก ให้ได้แกนตั้งฉาก เพื่อให้ได้จุดเริ่มต้นของคิ้วที่เหมาะสม

B. จุดหักของคิ้ว
เมื่อกำหนดจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของคิ้วแล้ว จากนั้นให้ใช้แปรงวางเป็นเส้นตรง ลากผ่านบริเวณหางตาดำ แล้วจึงกำหนดเป็นจุดหักของคิ้วบนแนวคิ้วที่กำหนดไว้ในตอนต้น

C. จุดสิ้นสุดของคิ้ว
ใช้แปรงวางเป็นเส้นตรงทำมุม 45 องศา ผ่านหางตา เพื่อกำหนดเป็นจุดสิ้นสุดของคิ้ว

Tips: สามารถใช้แปรงแต่งหน้าบนโต๊ะเครื่องแป้งแทนการใช้ไม้บรรทัดได้ สะดวก รวดเร็ว และให้ผลลัพธ์ที่สวยไม่แพ้กัน



2. การตกแต่งรูปคิ้ว

ก่อนที่จะลงมือเริ่มเขียนคิ้วหรือระบายสีคิ้ว ควรที่จะตกแต่งและจัดทรงคิ้วให้ได้รูปเสียก่อน ข้อดีของการตกแต่งรูปคิ้วคือ ทำให้ใบหน้าแลดูยกกระชับขึ้น และเมื่อเรามีคิ้วที่รับกับใบหน้าก็จะทำให้การแต่งหน้าดูสวยสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

Tips:
 การตกแต่งท้องคิ้วให้ดูสะอาดจะช่วยทำให้ใบหน้าดูกระจ่างสดใสได้ด้วย


3. การแต่งเติมสีคิ้ว
- เริ่มจากใช้ดินสอวาดโครงคิ้ว โดยเริ่มจากจุดกึ่งกลางของท้องคิ้ว ค่อยๆ ลากเป็นเส้นบางๆ ไปจนถึงหางคิ้ว 
- จากนั้นลากเส้นเชื่อมต่อจากจุดกึ่งกลางของท้องคิ้ว เกลี่ยบางๆ มาที่หัวคิ้ว 
- ส่วนด้านบนของคิ้วให้เริ่มจากจุดหักของคิ้วเช่นกัน
- ใช้สีอายแชโดว์ ระบายบางๆ ตามรูปคิ้วที่เราได้ตกแต่งเอาไว้ในตอนต้น

Tips: ลองเลือกสีอายแชโดว์ที่มีสีใกล้เคียงกับสีผม หรืออ่อนกว่าสีผม 1 เฉด จะทำให้คิ้วดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น


4. การดูแลรักษารูปคิ้ว
ผู้เชี่ยวชาญด้านการแต่งหน้าแนะนำว่า เราสามารถดูแลรูปทรงคิ้วให้สวยได้ ใช้เวลาเพียงแค่สัปดาห์ละครั้งเท่านั้น วิธีการง่ายๆ คือ ใช้แหนบถอนขนคิ้วในบริเวณที่คิ้วขึ้นเป็นตอ

Tips: ให้ถอนขนคิ้วหลังจากล้างหน้าเสร็จเพราะเส้นขนจะอ่อนนิ่ม หรือจะทำให้รูขุมขนคลายตัวด้วยการประคบน้ำอุ่นก่อนก็จะทำให้ถอนได้ง่าย และบรรเทาความเจ็บได้ดียิ่งขึ้น




เมคอัพสวยๆ ของ เทย์เลอร์ สวิฟต์

ถ้าพูดถึงนักร้องสาว เทย์เลอร์ สวิฟต์ หลายคนต้องนึกถึงเสียงเพราะๆ กับแนวเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ใช่มั๊ยล่ะคะ นอกจากนี้ยังมีหน้าตา ที่ไม่ว่าเธอจะร้องเพลงบนเวทีคอนเสิตร์หรือถูกเชิญไปเดินบนพรมแดงที่ไหน เป็นต้องถูกจับตามองทุกครั้งที่เธอก้าวเท้าเข้างาน และวันนี้เกร็ดดี้จะพาคุณสาวๆ ไปดูเสื้อผ้า ทรงผม พร้อมซูมเมคอัพแน่นๆ ที่นางแต่งออกงานมาให้ได้ชมกัน
ครั้งนี้เกร็ดดี้ขอเลือกการแต่งหน้าจากงาน The 2013 Fragrance Foundation Awards in NYC เธอใส่ชุดราตรีสีขาวสง่างามพร้อมกับโทนการแต่งหน้าที่เน้นดวงตาให้เปล่งประกาย

เริ่มต้นกันที่ดวงตา ตาเป็นส่วนสำคัญที่จะเพิ่มเสน่ห์ให้กับสาวๆ ได้ เพราะฉะนั้นแล้วการเขียนอายไลน์เนอร์สีดำนั้นอาจจะดูธรรมดาไป เธอเลือกใช้ดินสอเขียนขอบตาสีเขียวน้ำทะเลทั้งด้านบนและล่างเขียนทับอายไลน์เนอร์สีดำและทากลิตเตอร์ที่เปลือกตาด้านบน 
ส่วนขอบตาล่างหลังจากเขียนขอบตาด้วยดินสอสีเขียวน้ำทะเลแล้ว ให้ใช้อายแชโดว์สีฟ้าทาทับดินสอสีเขียวน้ำทะเลที่เขียนไว้ในขั้นตอนแรก การเขียนอายแชโดว์แบบนี้ควรใช้พู่หัวเล็กเกลี่ยอายแชโดว์ให้ดูฟุ้งเกินขอบตาล่างออกมานิดนึง เส้นอายไลน์เนอร์ที่ได้จะดูสวยและเป็นธรรมชาติ จากนั้นปัดมาสคาร่าและติดขนตา แค่นี้ขั้นตอนการแต่งตาก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ
มาถึงสีบรัชออนและสีลิปสติก เธอเลือกสีส้มอ่อนมาปัดแก้มและทาปากด้วยลิปสติกสีส้มที่กำลังพอดี ไม่นู้ดจนป่วยและไม่เข้มจนแย่งซีนกับดวงตาจนเกินไป
ส่วนทรงผมงานนี้เธอเลือกเกล้าผมมวยเล็กq กึ่งกลางศรีษะ ปล่อยหน้าม้าตรงเอกลักษณ์ประจำตัวเธอ ดูเป็นทรงที่สบายๆ แต่ก็เรียบหรูดีนะคะ


ใบเตย VS กระแต กับการแต่งหน้าที่พลาดอย่างแรง

กลับมาพบกันอีกแล้วกับเจ๊ตุงกระทุ้งแฟชั่น วันนี้เจ๊ขอพักการวิจารณ์แฟชั่นเสื้อผ้าของเหล่าดาราไปก่อน เพราะตอนนี้เจ๊มีเรื่องที่เห็นแล้วมันคันปากยุบยิบหลังจากที่ได้ไปเจอสองสาวจากค่ายอาร์สยาม ก็เกิดอาการแน่นอกจนทนไม่ไหวกับเมคอัพที่อยู่บนหน้า เรามาดู สาวใบเตย และ สาวกระแต กันดีกว่าว่าแต่ละคนเป็นอย่างไร เจ๊ตุงถึงได้จุกแบบนี้

เริ่มกันที่สาว ใบเตย อาร์สยาม กับการผิดพลาดในการเลือกสีรองพื้นและแป้งที่ขาวเกินผิวจริง ไม่รู้ว่าเป็นชั่วโมงเร่งรีบหรือว่าอย่างไร คุณน้องถึงได้โบกแป้งหนา ทาตาสีดำเข้ม แก้มสีส้มแป๊ดเป็นชะนีหน้าวอกซะอย่างนั้น และยังไม่จบแค่นั้น เพิ่มความวอกคูณสองด้วยไฮไลท์ขาววิ้งใต้ตาและการแต่งตัวด้วยขาสั้นเสมอหูในงานทางการแบบนี้ เจ๊เห็นแล้วบอกตรงๆ มันแน่นอกแน่นใจจุงเบย
มาถึง กระแต อาร์สยาม กับสไตล์การแต่งหน้าแบบสาวญี่ปุ่นที่ไม่ได้เข้ากับเบ้าหน้าของคุณน้องเลยซักนิด การติดขนตาปลอมด้านบนเจ๊ตุงยังพอรับได้นะคะ แต่ขนตาด้านล่างแบบนี้ นอกจากจะไม่ได้เพิ่มความแบ๊วแล้ว มันยังเหมือนขี้ตาเลอะดูไม่สวยเอาซะเลย ส่วนผมก็ไฮไลท์ 7 สี มณี 7 แสง มันช่างขัดกับสไตล์การแต่งหน้าญี่ปุ่นที่คุณน้องตั้งใจแต่งมามากๆ ส่วนใบหน้าก็หนูลงแป้งหนาไปนะลูก เวลายิ้มแล้วมันดูแตกเป็บรอยยับ และสงสัยว่าอากาศภายในงานคงจะร้อนมากไปสินะ จั๊กกะแร้ถึงได้เปียกซะขนาดนี้ งานหน้าอย่าลืมเช็คตัวเองให้ดีก่อน ภาพที่ออกมามันจะได้ดูสวยใสนะคะ....อิอิ
เห็นอย่างนี้แล้ว สาวๆ มาช่วยเจ๊ตัดสินกันดีกว่าระหว่าง ใบเตย VS กระแต ใครจะมาวิน ชิงชนะเลิศ สำหรับเจ๊ตุงคิดว่างานนี้เจ๊จะขอเลือกสาว ใบเตย เพราะ หน้าขาวของคุณน้องระหว่างวันมันยังดูหมองลงได้และกางเกงนุ่งสั้นก็เหมือนเป็นเอกลักษณ์ที่เฮียฮ้อก็คงจะไม่ว่าอะไร แต่คุณน้อง กระแต นี้สิมาเต็ม ทั้งโบกหน้าหนา ติดขนตายาวเกินจริง สีผมและข้อมือที่ดูเยอะไป งานนี้เจ๊จึงขอมอบตำแหน่ง สาวเยอะประจำงาน ให้ไปเลยล่ะกันนะคะ ส่วนสาวๆ คนไหนมีความคิดเห็นอย่างไร คอมเม้นท์บอกเจ๊มาได้เลย เจ๊อยากรู้!!!!

เทรนด์ทาปากแดงแบบ ขวัญ อุษามณี

เป็นนางเอกสาวที่กำลังตกเป็นข่าวเรื่องหนีคิวถ่ายละคร โดยมีผู้จัดคนดังออกมาโพสว่ามีดาราไม่ให้คิวถ่ายบอกว่าติดเรียน แต่ลง IG ว่า ว่างพักยาว 3 วัน ถึงจะไม่ได้ระบุชื่อแต่หลายคนที่ติดตาม IG สาว ขวัญ อุษามณี ก็คงจะรู้ว่า เธอเพิ่งโพสรูปภาพไปพักผ่อนที่ทะเลกับคุณแม่ 3 วันเหมือนกัน งานนี้ทำเอานางเอกสาวออกโรงคอนเม้นตอบแฟนคลับไปว่า"ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการสื่อสารภายในบริษัท หวยเลยมาออกที่ตัวเอง ถ้าแอบไปจริงคงไม่ลงรูปใน IG เป็นสิบรูปขนาดนั้น " งานนี้ไม่รู้ว่าจะจบลงด้วยการปรับความเข้าใจหรือจะเป็นศึกใหญ่ระหว่าง ดาราสาว กับ ผู้จัดคนดังต้องรอลุ้นกันต่อไปนะคะ

แต่ที่แน่ๆ สาวๆ เคยสังเกตกันบ้างหรือเปล่าคะ ว่าสาว ขวัญ อุษามณี เป็นหนึ่งในดาราสาวที่ชอบแต่งเติมสีสันในกับริมฝีปากด้วย ลิปสติกสีแดง สีโปรดสำหรับสาวเปรี้ยวสุดแซ่บอยู่เรื่อยๆ แต่การทาปากแดงนั้นไม่ใช่หยิบถึงมาทาแล้วจะสวยได้นั้นอาจจะต้องมีทริคเล็กๆ น้อยๆ ว่าแล้วเราไปดูขั้นตอนการทาปากแดงให้สวยเป๊ะไร้ที่ติกันดีกว่าค่ะ
- ทาปากด้วยลิปบาล์ม บำรุงให้ผิวปากที่แห้งชุ่มชื้นขึ้น
- ซับปากด้วยกระดาษทิชชู่ ให้ความมันของลิปบาล์ออกไป
- ทาทินท์สีแดงที่ริมผีปากด้านใน เพราะ ปากด้านในเป็นส่วนที่ทาลิปสติกไม่ค่อยติด ปากจะเป็นสี ขาว-แดง เป็นสองชั้นดูไม่โอเคเลยนะคะ
- ใช้ดินสอเขียนขอบปาก เขียนขอบปาก โดยเขียนให้พอดีกับรูปปากและเขียนทีละสั้นๆ และเพื่อให้สีแดงติดทนนานขึ้น ให้ใช้ดินสอเขียนขอบปากเขียนเข้ามาทีด้านในเหมือนทาลิปสติกรอบแรกด้วยดินสอเขียนขอบปากค่ะ
- หยิบลิปสติกสีที่แดงที่สุดเท่าที่เคยมีทา โดยใช้แปรงทาลงไปบนปาก การใช้แปรง จะทำให้เกลี่ยง่ายและเข้าถึงมุมเล็กๆ ที่เข้าถึงยากค่ะ
- ใช้ทิชชู่ซับปากอีกรอบ ถ้าเลอะให้เก็บรอยที่เลอะด้วยคอนซีลเลอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้คอนซีลเลอร์ไหลกองมารวมกันให้ทาแป้งทับคอนซีลเลอร์นั้นอีกรอบ 
เพิ่มเสน่ห์ให้ริมฝีปากด้วยการทาไฮไลท์ตรงส่วนบนของปากที่หยักของหัวใจ วิธีนี้จะทำให้สีปากของคุณดูโดนเด่นมากขึ้นไปอีกค่ะ
เพียงเท่านี้คุณก็จะมีปากสีแดงที่สวยแซ่บไม่แพ้สาว ขวัญ อุษามณี แล้วค่ะ อย่าลืมว่า ถ้าเราเน้นการทาปากแล้ว ส่วนต่างๆ ในใบหน้า อย่างเช่น ตา แก้ม ก็ต้องซอฟลงด้วย ซึ่งสาว ขวัญ อุษามณี ก็แต่งหน้าออกมาได้เริดซะจน เกร็ดดี้ต้องพาคุณสาวๆ ไปดูเทรนด์การแต่งหน้าในสไตล์นางเอกสาวคนนี้กันเลยค่ะ